สำหรับคนที่อยากมีบ้าน เชื่อว่าต้องได้อ่านข่าวคราวของทาง ทปอ. หรือ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ออกมาประกาศว่าจะไม่มีการผ่อนปรนมาตรการของการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยครอบคลุมถึงบ้าน ส่งผลให้ในปีหน้า ปี 2566 คนที่ต้องการมีบ้านเกิดความสงสัย ซื้อบ้านต้องมี เงินดาวน์บ้าน เท่าไหร่ ถึงจะสามารถซื้อได้ เพราะบางคนก็บอกว่าดี บางคนก็บอกว่าไม่ดีกับการออกมาประกาศ ซึ่งในบทความนี้รวมความรู้มาให้ และทุกคนมาดูว่าปังหรือพัง
ซื้อบ้านปีหน้า ต้องมี เงินดาวน์บ้าน เท่าไหร่ ถึงซื้อได้
การซื้อบ้านในปีหน้า 2566 มีมาตรการของการซื้อบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ส่วนตัวมองว่าเอื้อประโยชน์มากกับคนที่อยากมีบ้านจริง ๆ และเงินเก็บไม่ได้เยอะมาก ด้วย 2 เงื่อนไขที่น่าสนใจ ต่อไปนี้
- ถ้าราคาบ้านที่ไม่เกิน 10 ล้าน สำหรับคนที่ต้องการกู้ซื้อบ้านเป็นคนครั้งแรก ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ใช่! ทุกคนอ่านไม่ผิด คนที่อยากมีบ้านหลังแรกในชีวิต ราคาไม่เกินสิบล้านบ้าน เดินถือเอกสารไปธนาคารกู้ได้เลย ไม้ต้องนำเงินไปวางดาวน์ทั้งนั้น แต่ถ้าใครที่ซื้อบ้านหลังที่สองราคาไม่ถึงสิบล้านบาทจะต้องวางเงินดาวน์จำนวน 10% ของราคาบ้าน ถ้าผ่อนมากกว่า 2 ปี เช่น ราคาบ้าน 1,000,000 บาท ทุกคนจ่าย 100,000 ได้บ้าน แต่ผ่านเกิน 2 ปี ถ้าคนไหนที่ผ่อนไม่ถึง 2 ปี และเป็นบ้านหลังที่ 2 เงินวางดาวน์ 20% ถ้าบ้านราคา 1,000,000 ทุกคนจ่าย 200,000 ได้บ้านเลย
- ถ้าราคาบ้านที่เกิน 10 บ้านขึ้นไป สำหรับคนที่มีบ้านหลังที่ 1 วางดาวน์ 10% ถ้าเป็นบ้านหลังที่ 2 วางดาวน์ 20% ถ้าเป็นบ้านหลังที่ 3 วางดาวน์ 30% ถ้างงบ้านเกินสิบล้านมากกว่านี้เงินดาวน์บ้าน เท่าไหร่ก็บวกไป 10% เช่น ราคาบ้าน 100,000,000 บาท หลังแรกวางดาวน์ 10,000,000 บาท หลังที่สองวางดาวน์ 20,000,000 บาท หลังที่สามวางดาวน์ 30,000,000 บาท เป็นแบบนี้ไปเลย
ผ่อนน้อยวางเงินดาวน์บ้าน เท่าไหร่ของราคาบ้าน
อีกหนึ่งสิ่งที่คนอยากมีบ้านสงสัย เวลาไปยื่นกู้ธนาคารทางธนาคารจะมีสูตรคำนวณเงินรายได้หักค่าใช้จ่าย แต่บางคนค่าใช้จ่ายเยอะกว่าที่ธนาคารหักไป ถ้าต้องการผ่อนน้อยเงินดาวน์บ้านเท่าไหร่แนะนำว่าให้มากกว่า 20% เงินผ่อนก็จะน้อยลง แต่ก็แลกมาด้วยระยะเวลาการผ่อนที่มากขึ้น แต่ทุกคนมีวิธีผ่อนระยะสั้นลง ด้วยการรีไฟแนนซ์ ทบเงิน เป็นต้น ลองปรึกษาธนาคารมีทางออกแน่นอน
สามารถติดตามการจัดบ้าน เว็บกล้วยไม้ สามารถดูฮวงจุ้ยพื้นฐานเป็น และแก้ไขด้วยตนเอง